วันศุกร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2551

เปลี่ยน !?

จะเล่าจากตรงไหนก่อนดีผมก็ไม่ทราบ เริ่มจากตารางเรียนของผม(ถูก)เปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว โดยเหตผลที่เปลี่ยนคือมันง่ายเกินกว่าที่จะเรียนได้ และ ยากจนถึงใช้ทั้งชีวิตก็ไม่เข้าใจ

เปลี่ยนเลขจาก Trig/pre cal => Trig/AP Cal A
เปลี่ยนคอมพิวเตอร์จาก AP Com Sci => photography

โดยเลขนั้นเรียนเหมือนเดิมในเรื่องแรก ส่วนเรื่องที่สอง AP Cal A จะเปนยังไงนั้นก็ต้องติดตามกันไป อาจจะเรียนไม่ได้ แต่ก็เปลี่ยนแมร่งไม่ได้แล้ว(สาด)

เนื่องจากผมไปบอกผู้ดูแลเราว่าอยากเรียนอะไรเกี่ยวกับรูปหรือ photoshop ท่านเลยจับผมใส่ใน photography
โดยรวมแล้วสนุกดี ไม่เครียด สอนเกี่ยวกับการถ่ายรูปเล็กน้อย ที่เหลือสอนเกี่ยวกับการแต่งรูปให้ดูดีขึ้นใน photoshop (ผมคิดว่าผมไม่ต้องแต่งก็ดูดีอยู่แล้วนะ)

เนื่องจากต้องเปลี่ยน 2 วิชา ทำให้ตารางเรียนต้องเปลี่ยน วิชาสลับผสมปนเปกันมั่วไปหมด สุดท้ายคาบอังกิดก็ต้องเปลี่ยน ที่เปลี่ยนอย่างหนักคือ เพื่อน !!

คาบอังกิดมีผู้ชายแปดคนและผู้หญิงหนึ่งคน หนึ่งคนเท่านั้น ! และเพื่อนแต่ละคน ผมกล้ารับประกันเลยว่าไม่กามก็หื่นสุดๆ (คุณกำลังคิดว่า "ก็เหมาะกับมึงดี" อยู่รึเปล่า ?)

ตัวอย่าง : เรียนๆอยู่ก็ทำเสียง ... [ ผมไม่อยากเปลี่ยนบลอกนี้เปน ฉ 18+ ] หรือไม่ก็พูดว่า Give me more more more more ..... อะไรเทือกนี้ (อ่านเฉยๆผมเข้าใจว่าบางคนไม่เข้าใจ เอาไว้เขียน e-mail ลงในคอมเมนท์ แล้วผมจะอัดเสียงแล้วส่งไปให้นะครับ)

ด่วน สินค้ามีจำนวนจำกัด !

ส่วนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ผมสอบเลขไป ได้ 43/50 คือมันไม่ยากหรอกครับ แต่ผิดแบบฉลาดไปหน่อย ถ้าผิดแบบนี้ที่เตรียม ผมยอมลาออกเลย

ข้อแรก : เขียนมุมสลับกันจาก A เป็น B (-3)
อีกข้อ : ต้องเขียนว่า no triangle แต่ไปเขียนว่า undefine (-1)
อีกข้อ : อันนี้ผิดโดยความไม่รู้เอง ซึงยังไงก็ไม่ได้เต็มอยู่แล้ว ข้อนี้ผิดชัวร์ๆ (-3)


เรื่องในห้องเรียนก็หมดไป แต่ เดี๋ยวก่อน !

ยังมีเรื่องหลังเลิกเรียนอีก ..




Club นั่นเองง




Club ที่เปนสมาชิก : foreign exchange student club, photography club
Club ที่(จะ)เปนสมาชิก : Japanese Girl club



ผิดครับ ที่จริงคือ Japanese culture club - สมัครอังคารหน้า
เหตุผลที่เลือก club นี้ เพราะด้านล่างกระดาษที่เขียนโฆษณาชมรมมันเขียนไว้ว่า











Manga, Anime and More !!


ที่จริง host mom บอกว่าไม่อยากให้กลับบ้านเร็ว ให้หาอะไรทำหลังเลิกเรียน ผมก็ไม่มีทางเลือกครับ ที่จริงก็ไม่อยากเข้าคลับนี้หรอก


จริงจริ๊ง


สรุปคือมีแค่วันจันทร์กับศุกร์เท่านั้นที่ไม่มีคลับอยู่


เมื่อวันซักวันที่ผ่านมา foreign x s club ได้พา German x s เข้าไปทำมักกะโรนี&ชีส (อยากกินสิเบน) ผมก็เข้าไปร่วมด้วย ที่จริงผมก็เคยคุยกับพวกนั้นแล้ว และก็ได้เพื่อนจาก german มา 3-4 คน แต่ที่คุยบ่อยก็แค่คนเดียว มีรูปมาให้ดู



ชื่อ Leo แต่เวลาออกเสียงออกแนว ริว+เรียว


อันนี้คือผลผลิตที่ได้ ได้ประมาณนี้ แต่ 5 ชาม + ไอศครีมรูทเบียร์


โดยสรุปแล้ว ผมทานไปแค่ชามเดียวเท่านั้น แต่ไอศครีมรูทเบียร์ทานไป 2 ถ้วย และยังมีขนมอีก 2 อย่างแต่ผมไม่ได้ถ่ายรูปมา บอกตามตรงว่าเลี่ยนมากๆ มีแต่ของหวาน เลยทานได้นิดเดียว แถมยังต้องกลับไปกินมื้อค่ำที่บ้านอีก ผมไม่กล้าทานเยอะหรอกครับ


ปล. สำหรับผู้ที่สนใจสินค้า "เสียงตัวอย่าง" ต้องขออภัยเนื่องจากสินค้าหมดแล้ว
ปล2. ชีวิตนี้มีแต่การท่องเที่ยว













ไม่มีซักอาทิตย์ที่ผมได้อยู่บ้านทั้งอาทิตย์เลย(สาด) จึงส่งผลให้




















ทำการบ้านไม่ทันแล้ว(สาด สาด สาดดดดดดด)

วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2551

เสียงเพลงที่ขับร้อง ..ในสายลม

คิดอะไรอยู่ ? คาดหวังอะไรอย่างงั้นหรือ ?

หรือกำลังรอบางอย่างที่ไม่มีวันมาหา ... ?

คุณเคยรู้สึกไหม ว่าบางครั้งก็ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรกันแน่

ผมก็ไม่ทราบว่าตัวเองเปนอะไร ทั้งๆที่อะไรมันก็คล้ายๆเดิมอยู่ทุกๆวัน อะไรมันก็เหมือนเดิม แค่..


ดูเหมือนเราจะคาดหวังอะไรมากขึ้นเท่านั้น ...

ตัวผมนั้นไม่ได้คาดหวังให้อะไรเก่าๆมันย้อนกลับมา ไม่ได้คาดหวังให้ทุกคนมาใส่ใจ หรือเข้าใจว่าผมรู้สึกอย่างไร เพียงแค่

ผมคาดหวังให้ตัวผมรู้ว่า ผมต้องการอะไรกันแน่ ในตอนนี้


เด็กชายคนหนึ่ง เดินอยู่บนถนนที่ไม่มีจุดสิ้นสุด ท่ามกลางทางแยกที่มากมาย อะไรเปนสิ่งที่ทำให้เด็กชายคนนั้นเดินต่อไป ? เดินต่อไปเพื่อ ..อะไร

ไม่นานนัก ก็ได้เจอกับตัวตลกผู้หนึ่ง กำลังเดินอยู่บนทางแยกที่เขียนว่าความต้องการ เด็กชายไม่ได้ถามอะไรตัวตลกผู้นั้น แค่มอง มอง มอง จนตัวตลกนั้นเดินไกลจนลับขอบฟ้า

เด็กชายคิดว่า"ความต้องการ อย่างนั้นหรือ?" เมื่อคิดได้ดังนั้น เด็กชายเลือกที่จะเดินไปบนถนนความต้องการ

ตลอดทางที่เดินเข้ามาในถนนความต้องการ เด็กชายพบกับผู้คนมากมาย บางคนยังคงเดินต่อไป ทั้งนำหน้าและตามหลังเด็กชาย ..แต่บางคนหยุดนั่ง คุย เล่นหรือนอนโดยไม่คิดที่จะเดินต่อไป อาจจะเพียงเพราะไม่อยากเดินบนถนนที่มีทางแยกอีกต่อไป จึงหยุดอยู่แค่นี้ เด็กชายจึงคิดว่า"ก็ดีนะ ได้หยุดพัก ไม่ต้องเดินให้ลำบากอีกต่อไป ได้มีเพื่อนคุยมากมาย ทั้งยังได้นอนอีกด้วย"

แต่ทันใดนั้นเองเด็กชายก็เหลือบไปเห็นหญิงชราคนหนึ่ง กำลังนั่งอยู่ตามลำพัง เด็กชายจึงเดินเข้าไปหา และถามว่า"คุณอยู่ตรงนี้มานานแล้วหรือ ทำไมไม่ไปคุยกับคนอื่นๆล่ะ ?"

... ไม่มีเสียงตอบกลับจากหญิงชราผู้นั้น
ท่ามกลางความเงียบที่ยาวนาน ก็มีเสียงกระซิบขึ้นมาว่า"นานแล้ว นั่งมานานมากแล้วล่ะ นานจนไม่สามารถจะไปไหนได้อีกแล้วล่ะ"

เด็กชายประหลาดใจกับคำตอบ

"คนเหล่านั้นมักจะเล่าเรื่องความต้องการของตัวเอง โดยมีความสุขกับการเล่าให้คนอื่นฟัง แต่พวกเขา...ไม่เคย.....มา" เสียงของหญิงชราถูกกลบด้วยเสียงหัวเราะของผู้คนที่คุยกันเรื่องความต้องการของตน

เด็กชายรู้สึกงุนงงกับสิ่งที่หญิงชราตอบ เด็กชายยังไม่รู้ว่าตัวเองควรทำอย่างไรต่อไป

ทันใดนั้นตัวตลกที่เด็กชายเห็นบนถนนความต้องการ ก็เดินผ่านเด็กชายไป เดินไปจนเจอทางแยก แล้วตัวตลกก็เดินไปบนทางแยกที่เขียนกำกับด้วยตัวหนังสือสีเทาเข้มว่า"ความพยายาม"

เด็กชายจึงคิดที่จะตามตัวตลกไป แต่ก็ลังเลว่าจะหยุดพักที่นี่ดีหรือไม่ แต่ด้วยผู้คนที่เดินบนถนนอันมากมาย ผู้คนที่ตั้งหน้าตั้งตาเดินโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ทำให้เด็กชายคิดที่จะเดินต่อไป ผู้คนเหล่านั้นเข้าทางแยกที่แตกต่างกันไปมากมาย แต่มีจำนวนไม่มากนักที่เดินเข้าไปในความพยายาม

เด็กชายตัดสินใจตามตัวตลกไปในความพยายาม

เมื่อเดินเข้ามา เด็กชายพบว่าผู้คนบ้างทำหน้าตามีความสุข ยิ้มแย้มแจ่มใส และเดินไปบนทางแยกที่เขียนว่า"สิ่งที่ต้องการ" แต่บ้างมีหน้าตาที่เศร้าหมอง ร้องไห้ และอยู่บนความทุกข์ ไม่คิดที่จะเดินต่อไปไหนอีกต่อไป ...

เด็กชายไม่เข้าใจว่าทำไมผู้คนถึงได้มีทั้งความสุขและทุกข์บนเส้นทางนี้ แต่ทันใดนั้น เด็กชายสังเกตเห็นชายผู้หนึ่ง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเศร้า แต่แปลกตรงที่

ชายผู้นั้นยังคงเดินต่อไป

เด็กชายจึงวิ่งเข้าไปหาและถามว่า"ทำไมคุณถึงยังเดินต่อไปได้ ทั้งๆที่คนอื่นเขาไม่สามารถที่จะไปไหนได้อีกแล้ว"

"ตามมาสิ" คำตอบสั้นๆของชายผู้นั้น

เด็กชายเดินตามชายผู้นั้นไป จนพบทางแยกอีกทางหนึ่ง

"ทางนี้แหละ ทางที่คนเศร้าอย่างพวกเราควรจะเดินต่อไป"

ทางนั้นเขียนกำกับชื่อไว้ว่า"ความหวัง"แต่ข้างใต้ตัวอักษรนั้นมีตัวหนังสือที่ดูเล็ก เรียบง่าย ถูกเขียนเพิ่มเติมด้วยสีแดงไว้ว่า"แก้ไข จากความล้มเหลว"

เด็กชายจึงถามว่า"มีแค่ทางเดียวหรือ ?"

ชายผู้นั้นไม่ตอบ และยังคงเดินต่อไป เด็กชายยังคงตามชายผู้นั้นไปเรื่อยๆ

เดิน เดิน เดิน เดิน เดิน เดิน

และชายคนนั้นก็หยุดเดิน หยุดอยู่หน้าทางแยกทางหนึ่ง ทางแยกที่ดูสวยงามกว่าทางแยกใดๆ และดูเหมือนว่าจะไม่มีทางแยกใดๆอีกต่อไปบนเส้นทางนี้

"เส้นทางเดินนั้นมีมากมาย เพียงแต่จะมีสักกี่เส้นทาง ที่จะได้พบกับถนนสิ่งที่ต้องการ"

ใช่แล้วล่ะ สิ่งที่ต้องการ ชื่อของถนนสายนี้ ถนนที่ไม่มีทางแยกใดๆอีก

เด็กชายจึงเดินเข้าไปกับชายผู้นั้น เดินไปเรื่อยๆ จนถึงทางออก

เด็กชายพบผู้คนจำนวนมาก ผู้คนเหล่านั้นมีความสุขบนสิ่งที่ต้องการ สิ่งที่มีตัวตนไม่ใช่เพียงแค่คำพูด

เดิน เดิน เดิน เดินมองไปเรื่อยๆ จนเจอกับต้นไม้ใหญ่ต้นนึง จึงเข้าไปนั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ แล้วเด็กชายก็คิดว่า"ถึงเวลา ..พักแล้วสินะ"

ทันใดนั้นก็มีลมพัดเข้ามา เด็กชายได้ยินอะไรบางอย่างในสายลม อะไรบางอย่างที่ไพเราะและทำให้มีความสุข เด็กชายคิดว่าเสียงนั้นคือเสียงเพลง

เสียงเพลงที่เขาต้องการ

เสียงเพลงที่ขับร้อง ..ในสายลม

แล้วเด็กชายก็หลับไป




ปล.ฝากเอาไว้หนึ่งภาพ


















วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2551

P e P P e R

ผมไม่ทราบว่าจะเขียนอะไรใน entry นี้ดี

วันนี้ผมตื่นมาตอนประมาณ 8 นาฬิกา ก็เล่นคอมตามปกติของคนไม่มีอะไรทำ(ไม่มีสอบช่วงนี้) แต่อย่างว่าแหละ ไม่ใช่ว่าจะว่างทั้งวัน ตอนบ่ายต้องออกไปช่วยงานของโรตารี ..งานหนักจริงๆครับ
พูดถึง 2-3 วันมานี้ ป่วย ไม่ทราบสาเหตุ เหตุอาจจะเกิดจากความเหงา

...


!! เข้าเรื่องดีกว่าครับ วันนี้ไม่มีใครอยู่บ้าน อยู่กับ Pepper (อีกแล้ว) พอราวๆ 10 โมงมันก็เห่า แบบไม่ทราบสาเหตุ เหตุอาจจะเกิ....

...


ผมก็เลยลงไปดู ปรากฏว่ามันอยากออกไปข้างนอกเท่านั้นเอง แต่ฝนตกอยู่ แต่ก็จำใจให้มันออกไปเพราะสงสาร(ที่จริงรำคาญ) เสร็จแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเคอยากเหน ก็เลยไปถ่ายรูปแล้วก็มีอัพบลอก

และ ณ ปัจจุบัน ...หล่อนยังคงเห่าไม่หยุด

จบด้วยประการ ฉะนี้


ปล. โชคดีกับ final นะครับ
ปล2. WELCOME WINTER !!
ปล3. มองมือข้างขวาของคุณสิครับ .. . ไม่มีอะไร

เธอไปเก็บมาจากข้างบ้าน แล้วเอามากินในห้อง Bobby

เอ้ายิ้มมมม :) (หลับตาทำไมครับ ?)

อยู่ไหน






เพื่อนตู

อยู่นี่เอง !!


อ๊ะ เข้าใจผิด เหนว่าหน้าคล้าย

วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2551

บทความนี้ไม่มีเวลา(เขียน)

ก่อนอื่น ต้องขอประทานอภัยที่ entry นี้ไม่ได้กล่าวถึง .... Pepper

เนื่องจากผมยังไม่ได้ถ่ายรูปมัน และที่สำคัญ ผมไม่มีเวลาอัพบลอก เพราะไม่ว่างทั้งเสาร์-อาทิตย์กันเลยทีเดียว

วันเสาร์ผมไป Inbound meeting ของทางโรตารี มีนักเรียนแลกเปลี่ยนทั้งหมด 21 คนใน District 6440 นี้ ซึ่งมีคนไทยอยู่ 2 คน เริ่มจากรายการแรกคือนั่งฟัง แล้วก็หลับไปโดยปริยาย ฟังก็ฟังออก แต่มันยังไม่ถึงกับว่าฟังปุ๊บเข้าใจปั๊บ ยังมีการ translate ในหัวสมองอยู่บ้าง ซึ่งแน่นอน จะให้ทำงานต่อเนื่องกันเปนเวลาหลายๆชั่วโมงคงเปนไปไม่ได้ ยังต้องมีการพักบ้าง ...

พูดถึงก็มีเพื่อนจาก slovakia คุยด้วยตลอด รู้สึกคล้ายจะเข้ากันได้ดี และมักจะฮาตลอดเวลา ทีนี้พูดถึงคนอื่นบ้าง ...คงไม่พ้น French Girl !!! ผมกะว่า ผมคงต้องไปฝรั่งเศสแล้วล่ะ .. ?!

กิจกรรมมีมากมาย ส่วนรูปนั้น ..อย่าดูดีกว่า ไม่ค่อยได้ถ่าย แล้วดันไม่มีรูปรวมอีก อันนี้เศร้า ต้องไปขอทีหลัง ได้เมื่อไหร่แล้วจะลง ...เอ้อ ! มีรูปรวมอันเก่าอยู่ แต่มันไม่เหนหน้าผมเท่านั้นเอง ..ไปดูกันเอาเอง
(บอกทีผมอยู่ไหน)


อันนี้คือ pool party- --ยังจำกันได้ใช่มั้ย ? ส่วน French Girl อยู่ไหนน่ะหรอ อืม..ซ้ายมือ(ซ้ายจากรูปไม่ใช่คน)ของผู้หญิงที่ใส่ jacket สีชมพูู

ผมจำชื่อได้หมดทุกคนแล้ว(คิดว่า) แต่จำยากพอสมควร เพราะสำเนียงแต่ละประเทศก็ต่างกัน ซึ่งยากต่อการจดจำอย่างมาก

พูดถึงโรงเรียนบ้าง- -- ผมจะเปลี่ยน math กับ computer ซึ่ง math คงเอายากกว่า แต่ computer คงง่ายขึ้น ตอนนี้ยังไม่ได้เรียน เอาเปนว่าเรียนแล้วจะมาบอกแล้วกันครับว่าเปนยังไง แต่แน่นอน weightlifting ยังคงอยู่ !!

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ไปซื้อรองเท้าใหม่ ... 83 $ (อ่ะสาด) แต่ได้ลดเหลือ 70$ ช่วยได้มากเลยทีเดียว แถมวันนี้ตอนไป meeting ของโรตารีตอนเช้า ...ทุกๆครั้งจะมีการแจกเงินโดยมี 3 ขั้นตอนดังนี้
1. ซื้อ Ticket ซึ่งเงินที่จ่ายเปนการช่วยทางสโมสรที่นั่น สามารถซื้อน้อย-มากได้ตามพอใจ
2. จับ Ticket ซึ่งจะมีเลขตรงกับ ticket ของใครสักคนในนั้น- --ผมรับหน้าที่จับทุกครั้ง
3. จับลูกแก้ว คนที่ถูก ticket(ตามข้อ 2.) จะต้องเสี่ยงดวงอีกครั้ง โดยจะให้จับลูกแก้ว ถ้าได้สีขาวจะได้เงินเยอะมากแต่ผมจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ แต่ถ้าได้สีอื่นจะได้น้อย ถ้าจำไม่ผิด 5$ ล่ะมั้งครับ โดยมีลูกสีขาวลูกเดียวแต่มีสีอื่นมากกว่าสิบลูก- --ผมเปนคนจับเช่นเคย

ผมจับมาตั้งแต่่เข้า meeting ครั้งแรก ซึ่งไม่เคยได้สีขาวเลย ! แต่... วันนี้ มันได้สีขาว!!! กลายเปนว่าคนที่ถูก Ticket ได้เงินเยอะไปโดยปริยาย... ผมก็ไม่ได้นึกอะไรแค่สนุกๆไป พอกำลังเดินไปหาน้ำดื่ม พรึ่บบ!! เค้าให้มา 20$(ในหัวมีการคำนวณทันที 20x30=600) เหมือนใช้ชีวิตอยู่ดีๆมีเงิน 20$ ลอยมาตรงหน้า !!!!

อ้อมีอีกเรื่องนึงครับ เรื่อง Internet จำได้มั้ย ? ตอนนู้นผมบอกว่ามันช้า ... พรึ่บ !! เรามาดูกันดีกว่า



เร็วถูกใจวัยรุ่นอย่างผมพอสมควร ..แต่ยังไงก็รัก internet ที่ TU มากกว่า เพราะมันแรงกว่านี้อีก !



ปล.คิดถึงทุกคน
ปล2. เจอกัน ณ จุดตัดของพรหมลิขิต

วันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2551

William Fremd HS

Homepage http://www.fhs.d211.org/

เมื่อพูดถึงโรงเรียน ...คุณนึกถึงอะไรเปนอันดับแรก ??

อาจารย์ เพื่อน เรียน การบ้าน หรือ เพศตรงข้าม(ผมเลือกอันนี้) ?

ผมเปิดเรียนมาได้เกือบ 2 อาทิตย์แล้ว นับจากวันที่ 8/20/08 มีอะไรเกิดขึ้นมากมาย เริ่มจาก...

วันแรกนั้น งงและหลง เดินผิดๆถูกๆมั่วไปตามประสาคนมีการศึกษา(เค้าไม่ทำกัน) ฟังอะไรก็ยังไม่ค่อยรู้เรื่อง Locker ก็ใช้ไม่เปน(แม้ Bobby จะสอนแล้วก็ตาม) เพิ่งจะใช้เป็นก็วันอังคารที่ผ่านมานี้เอง- --หมายความว่าทำครั้งเดียวได้ ที่ผ่านมามั่วไปเกือบ 3 นาที แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีนะผมว่า วิชาที่เรียนก็ไม่มีอะไรมาก ..ไปดู schedule ผมของกันเลยดีกว่า

(คลิกเข้าไปดู)

ESL Resource : เปรียบเสมือนคาบว่าง เอาไว้ทำการบ้าน คุย เล่น ฝึกพูดนั่นเอง
Strength and Conditioning : P.E. ในลักษณะที่ไม่ใช่ sport แต่เปน Weightlifting บอกได้คำเดียวว่าปวดแขนมาก ..ไม่เคยไม่ก่อน นี่ครั้งแรกในชีวิต ต้องอยู่กับ class นี้ 1 ปี ...ปีหน้าคงกล้ามขึ้น หรือไหล่หลุด
ESL 4 Advance : ภาษาอังกฤษ ในแบบของการฝึกพูด และใช้ความคิด สนุกดี class นี้ แต่ผมโดนเรียน advance ซึ่ง Lee J อยู่ใน intermediate ผมเหนความแตกต่างจุดเดียวคือ ...การบ้านที่มากกว่า
Trigonometry and Precalculas : Trig เหมือนเรียนเรื่อง sin cos tan ส่วน precal เหมือนที่เราเรียนตอน ม.4 พวกสมการ กราฟ หา Dr/Rr ... เลยคิดว่าจะเปลี่ยนไปเรียน Calculas A เพราะคล้ายๆ ม.5 ที่เรียนอยู่
Lunch : มีคนถามว่าชอบอันไหนมากที่สุดใน schedule ผมตอบแบบไม่ต้องคิดเลย Lunch !! อาหารกลางวันผมกินไม่มากเท่าที่เตรียม เพราะ.. ตอนเลิกเรียนแล้วกลับบ้านก็ได้กินอีก..ซึ่งมี dinner ต่อจากนั้นอีกที เหมือนหนึ่งวันมี 4 มื้อ
US History : ไม่ยากแต่ไม่ง่าย การบ้านรุงรัง การบ้านปัจจุบันคืออ่านเรื่อง 5 หน้าแล้วตอบคำถามกับทำ brochure
AP com-science : จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ยาก เพราะมันโคตรยากหาที่ใดเปรียบมิได้ โดยเฉพาะปัญหาใหญ่คือฟังไม่รู้เรื่อง ไม่สามารถตามทันได้ มาวันแรกก็ login เข้าเครื่องไม่ได้ วันที่สอง login ได้แต่เปิดโปรแกรมไม่ได้ อาจารย์ถึงกับบ่นว่า "What the heck!!" วันที่ 3 เปิดโปรแกรมได้ แต่พอ run project มันดันไม่ได้ ....... What the HECK!!!!!!! เลยยุ่่งยากไปตามสภาพ ..ยังดีที่เรียนกับ Bobby แต่โดยรวมแล้ว "ไม่มีอะไร ที่เราเข้าใจ"
ESL 4 advance : อันนี้เหมือนเรียน reading/writing อ่านๆ ก็สนุกดีได้เพื่อนเยอะแยะกับ ESL Class


1 คาบมี 50 นาที และให้ 5 นาทีสำหรับเดิน ...ดูเวลาเริ่มเรียนแต่ละคาบได้จาก รอยดินสอด้านซ้ายมือริมขอบของ schedule

เรียนเสร็จแล้วก็ไปนั่ง school bus กลับบ้าน

*ตรงที่อยู่ [109 willow st....] คือที่อยู่ของผมในปัจจุบัน

ต่อไปก็มาดู ID ... กว่าจะได้ก็รอตั้ง 1 อาทิตย์ ต้องใส่ติดตัวตลอด ไม่งั้นโดนด่า.. ด่าจริงๆ เพราะผมโดนมาแล้ว(ฮา)
(คลิกเข้าไปดู)







จบแล้วสำหรับ entry นี้ครับ





ปล.เหนเคบอกอยากเหน pepper เอาไว้คราวหน้าล่ะกัน